ไปรษณีย์ไทยร่วมมือ AIS เปิดจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ 121 แห่งทั่วประเทศ สานภารกิจ “Green Hub” เพื่อแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์

28e5b3fb-6827-81b3-9c04-c3be0acb3a22.png

ไปรษณีย์ไทยประกาศความร่วมมือกับเอไอเอส (AIS) พร้อมพันธมิตรเอกชนอีก 3 ราย ได้แก่ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ทีพีบีไอ และ GC ในการขยายเครือข่ายจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศภายใต้โครงการ "Green Hub" ภายใต้แนวคิด "เส้นทาง…ความร่วมมือ รักษ์โลกไปรฯ ด้วยกัน" โดยมุ่งเน้นการสร้างจุดรับขยะที่เข้าถึงได้ง่ายผ่านสาขาที่ปรึกษาไปรษณีย์และช่องทางอื่นๆ ทั่วประเทศ[1][2]

โครงการ Green Hub เป็นการต่อยอดจากแคมเปญ reBOX ภายใต้โครงการไปรษณีย์เชื่อมสุข โดย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ไปรษณีย์ไทย เปิดเผยว่าโครงการนี้มุ่งเน้นการรับขยะหลายประเภท ไม่เพียงแค่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกล่องกระดาษ ซองกระดาษ พลาสติกยืดประเภท PE ขวด PET และ PP เพื่อนำเข้ากระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิลอย่างครบวงจร[3]

สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ AIS รับผิดชอบการจัดการตามมาตรฐานสากล ผ่านแพลตฟอร์ม AIS E-Waste+ ที่ให้บริการมานานกว่า 4 ปี ตั้งแต่ปี 2021 ไปรษณีย์ไทยและ AIS เคยเปิดบริการให้ประชาชนฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กับพนักงานส่งไปรษณีย์ได้ฟรี โดยไม่ต้องเดินทางไปทิ้งที่ศูนย์รับเอง[4] ในปัจจุบัน AIS มีจุดรับ E-Waste ที่ AIS Shop, AIS Telewiz, AIS Buddy Exclusive และ Serenade Club พร้อมมอบ AIS Points สูงสุด 10 คะแนนต่อขยะ 1 ชิ้น[5]

ขยะที่รวบรวมได้จะถูกนำเข้ากระบวนการแปรรูปเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคม เช่น การผลิตชุดนักเรียน ถุงขยะ และสิ่งของที่จำเป็นอื่นๆ เพื่อมอบให้กับนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนและกลุ่มเปราะบางทางสังคม โครงการนี้ตอบโจทย์ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยที่มีปริมาณกว่า 680,000 ตันต่อปี แต่มีเพียงไม่ถึง 20% เท่านั้นที่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี[6]

ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ AIS ที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอน 25% ภายในปี 2030 และแคมเปญ "คนไทยไร้ E-Waste" ที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารพิษ เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสามารถรั่วไหลสู่ดิน น้ำ และห่วงโซ่อาหาร[7] นอกจากนี้ AIS ยังร่วมมือกับกลุ่ม Singtel เปิดแคมเปญระดับภูมิภาค "สัญญาณยืดเวลาโลก" เพื่อสร้างการตระหนักรู้ให้กับผู้คนกว่า 1.9 พันล้านคนทั่วโลก[8]

โครงการ Green Hub แสดงให้เห็นถึงการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและเอกชนในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ โดยการใช้โครงข่ายที่ปรึกษาไปรษณีย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นจุดรับขยะ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มอัตราการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ