Google เตรียมเปิดตัว Veo 3.1 ที่รองรับวิดีโอความยาวมากขึ้น เพื่อแข่งขันกับ Sora 2

2885b3fb-6827-81b2-b756-e0b83cc21673.png

ข้อมูลเกี่ยวกับ Veo 3.1 เครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Google ได้รั่วไหลออกมาก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จากรายงานของหลายแหล่งข่าวเทคโนโลยี ระบุว่า Google กำลังเตรียมพัฒนาความสามารถของ Veo ให้รองรับการสร้างวิดีโอที่มีความยาวมากขึ้น เพื่อตอบโต้การแข่งขันกับ Sora จาก OpenAI ที่กำลังพัฒนาเวอร์ชัน 2 เช่นกัน การแข่งขันระหว่างสองยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในตลาด AI Video Generation นี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ความสามารถของ Veo 3 ในปัจจุบัน

Veo 3 ซึ่งเปิดตัวในงาน Google I/O เมื่อปี 2025 เป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอ AI ที่พัฒนาโดย DeepMind สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 1080p และมีแผนรองรับ 4K ในอนาคต ด้วยความสามารถในการแปลงข้อความหรือรูปภาพให้เป็นวิดีโอที่มีคุณภาพระดับภาพยนตร์ โดดเด่นด้วยการซิงค์เสียงและการเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่แม่นยำ ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์แรกในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างวิดีโอได้ยาวสูงสุด 8 วินาที พร้อมระบบติดตามการเคลื่อนไหว แสงเงา และการตัดต่อแบบอัตโนมัติ

การแข่งขันกับ Sora

OpenAI Sora ซึ่งเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนธันวาคม 2024 มีจุดแข็งที่การสร้างวิดีโอยาวได้ถึง 60 วินาที และมีความสามารถในการจำลองกฎทางกายภาพได้อย่างสมจริง เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อหาที่ต้องการเล่าเรื่องแบบยาว ขณะที่ Veo 3 มุ่งเน้นคุณภาพสูงและความแม่นยำในช่วงเวลาสั้น ตามข้อมูลจากหลายแหล่ง AI Video Generation สามารถลดต้นทุนการผลิตวิดีโอแบบเดิมได้ถึง 70-90% ทำให้เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจจากองค์กรต่างๆ อย่างมาก

ทิศทางของตลาด AI Video

ตลาด AI Video Generation คาดว่าจะเติบโตด้วยอัตรา 19.9% ต่อปีในช่วงปี 2024-2025 โดยมีมูลค่าตั้งแต่ 554.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 การที่ Google พัฒนา Veo 3.1 ให้รองรับวิดีโอยาวขึ้นแสดงให้เห็นว่าบริษัทต้องการยึดส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการสร้างคอนเทนต์ยาว ซึ่งเป็นจุดแข็งของคู่แข่งอย่าง Sora ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพระดับสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Veo ไว้

อนาคตของเทคโนโลยี

แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับ Veo 3.1 และ Sora 2 ยังเป็นเพียงข้อมูลที่รั่วไหลและยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่การแข่งขันระหว่างสองค่ายนี้กำลังผลักดันให้เทคโนโลยี AI Video Generation พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านความยาวของวิดีโอ คุณภาพ และความสามารถในการจำลองความเป็นจริง ซึ่งจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้สร้างคอนเทนต์ นักการตลาด และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในการผลิตผลงานที่มีคุณภาพสูงด้วยต้นทุนที่ต่ำลง