TP-Link บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายชั้นนำประกาศความสำเร็จในการทดสอบต้นแบบ Wi-Fi 8 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็น "ก้าวสำคัญ" ในการพัฒนามาตรฐานไร้สายรุ่นใหม่ แม้ว่า Wi-Fi 7 จะเพิ่งเริ่มวางจำหน่ายในตลาดได้ไม่นาน แต่อุตสาหกรรมก็เริ่มมุ่งไปสู่รุ่นถัดไปแล้ว การทดสอบครั้งนี้ดำเนินการผ่านความร่วมมือของพันธมิตรในอุตสาหกรรม โดย TP-Link ยืนยันว่าได้ทดสอบความสามารถด้าน beacon และการถ่ายโอนข้อมูลของมาตรฐาน IEEE 802.11bn สำเร็จ
Wi-Fi 8 หรือที่เรียกตามมาตรฐานว่า IEEE 802.11bn นั้นมีเป้าหมายที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน แทนที่จะแข่งขันกันเรื่องความเร็วสูงสุด Wi-Fi 8 เน้นไปที่ความเสถียรและความน่าเชื่อถือของการเชื่อมต่อแทน ตามที่ Qualcomm รายงานในบล็อกโพสต์เมื่อเดือนกรกฎาคม บริษัทอธิบายว่า Wi-Fi 8 ออกแบบมาเพื่อ "เลื่อนระดับจากการไล่ตามความเร็วสูงสุด ไปสู่การให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมจริงที่ท้าทาย" โดยมุ่งหวังให้ Wi-Fi มีความเสถียรและตอบสนองใกล้เคียงกับโครงสร้างเครือข่ายแบบมีสายมากที่สุด
ด้านสเปกทางเทคนิค Wi-Fi 8 จะใช้ย่านความถี่เดียวกับ Wi-Fi 7 คือ 2.4GHz, 5GHz และ 6GHz พร้อมแบนด์วิดท์สูงสุด 320MHz และอัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดทางทฤษฎีที่ 23Gbps แต่ข้อแตกต่างสำคัญคือการปรับปรุงประสิทธิภาพในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณอ่อน หรือมีอุปกรณ์จำนวนมากแชร์การเชื่อมต่อเดียวกัน ระบบจะสามารถจัดการอุปกรณ์ได้มากขึ้นพร้อมกัน และลดปัญหาแล็กเมื่ออยู่ห่างจากเราเตอร์หรือเคลื่อนที่ภายในบ้าน
ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก Wi-Fi 8 ชัดเจนในหลายด้าน ได้แก่:
- ประสบการณ์เล่นเกมและสตรีมมิ่งที่ราบรื่น ไม่มีการค้าง หลุด หรือภาพกระตุก
- การประชุมวิดีโอที่เสถียร ป้องกันปัญหาเสียงหุ่นยนต์หรือภาพแช่แข็ง
- ความเร็วที่สม่ำเสมอ ผู้ใช้จะได้รับความเร็วจริงใกล้เคียงกับที่คาดหวัง ไม่ใช่แค่ความเร็วสูงสุดทางทฤษฎี
- การโอนสัญญาณระหว่างจุดเชื่อมต่อที่ดีขึ้น เมื่อเคลื่อนที่ภายในบ้าน
สถานะปัจจุบันของการพัฒนา Wi-Fi 8 ยังอยู่ในช่วงต้นของการทดสอบ โดย TP-Link แถลงว่าบริษัทคาดว่าจะมีอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคพร้อมวางจำหน่ายก่อนที่มาตรฐานจะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Institute of Electrical and Electronics Engineers (IEEE) ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2028 ตามรายงานจาก The Verge สื่อเทคโนโลยีชั้นนำ แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมกำลังเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของการเชื่อมต่อไร้สายที่เน้นความน่าเชื่อถือเป็นหลัก แทนที่จะแข่งขันกันเพียงเรื่องตัวเลขความเร็วเท่านั้น
