การสำรวจจาก NordVPN เผยให้เห็นภาพที่น่าวิตกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในสหราชอาณาจักร โดยพบว่า 12% ของผู้ใช้ VPN ยังคงพึ่งพาบริการ VPN ฟรี แม้จะมีคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ UK Online Safety Act มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2025 ซึ่งกระตุ้นให้ความต้องการใช้ VPN พุ่งสูงขึ้นถึง 1,400% ตามรายงานจาก Intelligent CISO
กฎหมายความปลอดภัยออนไลน์ฉบับใหม่ของสหราชอาณาจักรบังคับให้เว็บไซต์ยอดนิยมหลายแห่ง รวมถึง Pornhub, X และ Reddit ต้องเพิ่มระบบตรวจสอบอายุที่เข้มงวดขึ้น เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ผลที่ตามมาคือผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น หันไปใช้ VPN ฟรีเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านี้ ในช่วงหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ พบว่า 5 ใน 10 แอปพลิเคชันฟรีที่ดาวน์โหลดมากที่สสุดในสหราชอาณาจักรเป็นแอป VPN การสำรวจของ TechRadar ในเดือนพฤษภาคม 2025 ยังพบเพิ่มเติมว่าเกือบ 1 ใน 4 ของผู้อ่านใช้ VPN ฟรี แสดงให้เห็นว่าปัญหานี้แพร่หลายกว่าที่คิด
ความเสี่ยงของ VPN ฟรีมีหลายด้านที่ผู้ใช้มักประเมินต่ำเกินไป ประเด็นสำคัญที่สุดคือการเก็บบันทึกข้อมูล (Data Logging) โดยบริการ VPN ฟรีส่วนใหญ่สร้างรายได้ด้วยการบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ IP เว็บไซต์ที่เข้าชม เวลาที่เชื่อมต่อ และข้อมูลการใช้งาน จากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้ไปขายให้กับผู้โฆษณาหรือบริษัทนายหน้าข้อมูล รายงานจาก CyberWarden ระบุว่ากว่า 90% ของ VPN ฟรีเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากมัลแวร์ แอดแวร์ และการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
ปัญหาด้านประสิทธิภาพยังเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดสำคัญของ VPN ฟรี ผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าลงอย่างมาก ส่งผลให้การสตรีมมิ่ง การเล่นเกม และแม้แต่การเรียกดูเว็บไซต์ทั่วไปกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิด นอกจากนี้ VPN ฟรีหลายตัวยังขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น Kill Switch ซึ่งเป็นระบบที่จะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันทีเมื่อการเชื่อมต่อ VPN หลุด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล มีรายงานเกี่ยวกับปัญหา DNS Leak ที่อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้แม้ว่าจะเปิดใช้งาน VPN อยู่
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แนะนำว่าหากจำเป็นต้องใช้ VPN ควรพิจารณาเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ แม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายก็ตาม บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือมักมีนโยบายไม่เก็บบันทึกข้อมูล (No-Logs Policy) ระบบเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง และฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ครบถ้วน รายงานจาก Engadget และ PCMag แนะนำให้ผู้ใช้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกใช้ VPN ฟรี และหากต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่แท้จริง การลงทุนในบริการ VPN ที่มีคุณภาพจะคุ้มค่ากว่าการเสี่ยงกับบริการฟรีที่อาจนำมาซึ่งปัญหาในระยะยาว
