Microsoft เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Teams ที่อาจทำให้การ "ซ่อนตัว" ในที่ทำงานเป็นเรื่องยากขึ้นอย่างมาก ด้วยระบบตรวจจับตำแหน่งการทำงานอัตโนมัติที่ชื่อว่า Automatic Detection of Work Location ภายใต้แพลตฟอร์ม Microsoft Places ซึ่งสามารถแจ้งให้เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาทราบได้ว่าพนักงานกำลังอยู่ในสำนักงานหรือทำงานจากที่อื่น[1]
ฟีเจอร์ Automatic Detection of Work Location นี้ทำงานผ่านสองสัญญาณหลัก ได้แก่ การเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ขององค์กร และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงบนโต๊ะทำงาน เช่น จอมอนิเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ เมื่อพนักงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านี้ ระบบจะอัปเดตสถานะการทำงานให้เป็น "In the Office" หรือระบุอาคารเฉพาะเจาะจงโดยอัตโนมัติ โดย Microsoft แนะนำให้ผู้ดูแลระบบตั้งค่าทั้งสองสัญญาณเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับตำแหน่ง
ความสามารถเด่นของฟีเจอร์นี้ประกอบด้วย
- ตรวจจับตำแหน่งอัตโนมัติผ่าน Wi-Fi ขององค์กร ซึ่งจะช่วยแมปตำแหน่งกับอาคารต่างๆ ได้
- รองรับการตรวจจับผ่านอุปกรณ์ต่อพ่วงบนโต๊ะทำงาน (Desk Peripherals) ซึ่งพร้อมใช้งานแล้วในปัจจุบัน
- ระบบเคารพเวลาทำงานของพนักงาน จะอัปเดตตำแหน่งเฉพาะในช่วงเวลาทำงานเท่านั้น
- ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้งานให้กับทั้งองค์กรหรือเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการได้
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือฟีเจอร์นี้เป็นแบบ Opt-in หมายความว่าพนักงานต้องเลือกเข้าร่วมการใช้งานด้วยตัวเอง ไม่ใช่การบังคับหรือเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติให้กับทุกคน นอกจากนี้ผู้ดูแลระบบจำเป็นต้องเปิดใช้งานและตั้งค่าระบบใน Tenant ก่อนที่พนักงานจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งช่วยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของพนักงานในระดับหนึ่ง
การเปิดตัวฟีเจอร์นี้สะท้อนถึงทิศทางการทำงานแบบ Hybrid Work ที่กำลังเป็นที่นิยม โดยองค์กรต่างต้องการเครื่องมือในการจัดการและติดตามว่าพนักงานอยู่ที่ไหน เพื่อให้การวางแผนประชุมและการทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวที่พนักงานและองค์กรควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนนำไปใช้งาน
ฟีเจอร์นี้ทำงานผ่านการตรวจจับสัญญาณอัตโนมัติ 2 รูปแบบ ได้แก่ การเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สาย (Wireless Network) ของสำนักงาน และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงบนโต๊ะทำงาน เช่น จอมอนิเตอร์หรืออุปกรณ์ USB ต่างๆ โดยผู้ดูแลระบบสามารถเลือกเปิดใช้งานทั้ง 2 วิธีพร้อมกันเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง หรือเลือกใช้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้[1]
เมื่อพนักงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หรือเครือข่ายที่กำหนดไว้ สถานะตำแหน่งการทำงานของพนักงานจะอัปเดตเป็น "In the Office" หรือระบุชื่ออาคารที่ทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อมูลนี้จะแสดงให้เพื่อนร่วมงานและผู้จัดการเห็นได้ เพื่อช่วยในการวางแผนการประชุมและการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น[2]
อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยฟีเจอร์นี้จะต้องได้รับการยินยอมจากพนักงานก่อน (User Opt-in) ไม่สามารถบังคับใช้ได้ทันที พนักงานสามารถเลือกที่จะแชร์ตำแหน่งการทำงานของตนเองหรือไม่ก็ได้ นอกจากนี้ ระบบยังให้พนักงานสามารถตั้งค่าสถานะด้วยตนเอง เช่น "Working remotely" หรือ "Out of office" ได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยสร้างสมดุลระหว่างความโปร่งใสในการทำงานกับสิทธิความเป็นส่วนตัว[2]
การเปิดตัวฟีเจอร์นี้สะท้อนถึงทิศทางการทำงานแบบ Hybrid ที่กำลังเป็นมาตรฐานใหม่ขององค์กรต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคที่พนักงานสามารถเลือกทำงานได้ทั้งที่สำนักงานและที่บ้าน การรู้ว่าใครอยู่ที่ไหนจึงกลายเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการบริหารจัดการทีมและการวางแผนการใช้พื้นที่สำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีข้อกังวลเรื่องการเฝ้าระวังและความเป็นส่วนตัว แต่ความสามารถในการ opt-out ของพนักงานก็อาจช่วยลดความกังวลในประเด็นนี้ได้ในระดับหนึ่ng[3]
