ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเตือนผู้ใช้งานระบบ Microsoft Defender for Endpoint ถึงปัญหาบั๊กที่เกิดขึ้นในระบบความปลอดภัยระดับองค์กร ซึ่งแจ้งเตือนผิดพลาดว่า SQL Server 2017 และ 2019 ได้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว รายงานจาก Bleeping Computer ระบุว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน Defender XDR ที่ติดตั้ง SQL Server เวอร์ชันดังกล่าว โดยระบบทำการติดแท็กว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไป แม้ว่าความจริงแล้ว SQL Server 2017 จะไม่หมดอายุจนถึงเดือนตุลาคม 2027 และ SQL Server 2019 จะยังได้รับการสนับสนุนจนถึงมกราคม 2030
SQL Server เป็นระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management System) ที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรในการจัดเก็บและจัดการข้อมูล SQL Server 2017 และ 2019 ยังคงอยู่ในช่วงการสนับสนุนหลัก (Mainstream Support) และการสนับสนุนแบบขยาย (Extended Support) ตามปกติ โดย SQL Server 2019 มี Mainstream Support จนถึงกุมภาพันธ์ 2025 และ Extended Support จนถึง 2030 ในขณะที่ SQL Server 2017 ยังได้รับการสนับสนุนต่อเนื่อง
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากข้อผิดพลาดในโค้ดที่เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่หมดอายุการสนับสนุน ไมโครซอฟท์ให้คำอธิบายในการแจ้งเตือนว่า "ผู้ใช้งานที่ติดตั้ง SQL Server 2019 และ 2017 อาจพบการติดแท็กที่ไม่ถูกต้องภายในระบบ Threat and Vulnerability Management" โดยผู้ใช้อาจพบการแสดงผลว่าซอฟต์แวร์หมดอายุการใช้งานแล้วในแพลตฟอร์ม Microsoft Defender for Endpoint
ทางไมโครซอฟท์ได้ยืนยันว่ากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาและกำลังปล่อยอัปเดตเพื่อย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้ โดยระบุว่า "เรากำลังดำเนินการปล่อยโซลูชันแก้ไขที่ออกแบบมาเพื่อย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดปัญหาในโค้ด และจะแจ้งระยะเวลาในการเสร็จสิ้นเมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจน" ไมโครซอฟท์จัดประเภทเหตุการณ์นี้เป็น "แจ้งเตือน" (Advisory) ซึ่งมักหมายถึงการรบกวนที่จำกัด แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทุกคนที่ติดตั้ง SQL Server 2017 และ 2019
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในปัญหาหลายรายการของ Defender ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งรวมถึงปัญหาการแจ้งเตือนไบออส (BIOS) ของอุปกรณ์ Dell ว่ามีเวอร์ชันล้าสมัย รวมถึงบั๊กที่ทำให้เกิดหน้าจอดำบนระบบ macOS และการตรวจสอบที่ผิดพลาดทำให้บริการป้องกันสแปมกักกันข้อความและบล็อกลิงก์สำหรับผู้ใช้งาน Exchange Online และ Teams เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายต่อเนื่องในด้านความน่าเชื่อถือของเครื่องมือรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร
