Zed Industries บริษัทผู้พัฒนา code editor รุ่นใหม่ได้ประกาศเปิดตัว Zed อย่างเป็นทางการพร้อมรองรับทุกแพลตฟอร์มหลัก รวมถึง macOS, Linux และ Windows โดยเพิ่งได้รับเงินทุน Series B มูลค่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก Sequoia Capital ในเดือนสิงหาคม 2025 ซึ่งยกระดับมูลค่าเงินทุนรวมเป็นกว่า 42 ล้านดอลลาร์[1] Zed สร้างโดยทีมพัฒนาเดิมของ Atom และ Tree-sitter ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์มาอย่างยาวนาน
Zed เป็น code editor ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดด้วยภาษา Rust โดยออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จาก CPU หลายคอร์และ GPU acceleration อย่างเต็มที่[2] ตัวโปรแกรมเป็น open source ภายใต้สัญญาอนุญาต GPL version 3 ทำให้นักพัฒนาสามารถตรวจสอบ แก้ไข และขยายความสามารถได้อย่างอิสระ โครงสร้างพื้นฐานของ Zed ถูกสร้างด้วย GPUI framework ที่ทีมพัฒนาเขียนขึ้นเอง รวมถึง GPU shaders และเรียกใช้ graphics API ของระบบปฏิบัติการโดยตรง
จากการทดสอบประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับ VS Code พบว่า Zed มีความเร็วในการตอบสนอง (latency) เพียง 58 มิลลิวินาที ในขณะที่ VS Code อยู่ที่ 97 มิลลิวินาที[3] นอกจากนี้ Zed ใช้หน่วยความจำเพียงประมาณ 100MB ขณะที่ VS Code ใช้ระหว่าง 200MB ถึง 2GB ขึ้นอยู่กับจำนวน extension ที่ติดตั้ง[4] ความเร็วในการเปิดโปรแกรมก็น้อยกว่า 1 วินาที เทียบกับ VS Code ที่ใช้เวลา 2-5 วินาที การทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่กว่า 50MB ซึ่งมักสร้างปัญหาให้กับ editor ทั่วไป Zed ก็สามารถจัดการได้อย่างราบรื่น
ฟีเจอร์เด่นของ Zed คือ AI integration ที่ฝังอยู่ในตัวโปรแกรมโดยตรง เรียกว่า Zed AI ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Anthropic โดยใช้โมเดล Claude 3.5 Sonnet[5] นักพัฒนาสามารถสนทนากับ AI ผ่าน assistant panel ด้านข้างหรือใช้คำสั่ง inline เพื่อแก้ไขโค้ดได้ทันที นอกจากนี้ยังมี edit prediction feature ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Zeta ซึ่ง Zed พัฒนาขึ้นเองและเปิดเป็น open source[6] ระบบนี้สามารถคาดการณ์การแก้ไขถัดไปของนักพัฒนาและให้กดแค่ปุ่ม tab เพื่อยอมรับการแก้ไขนั้นได้ทันที
การทำงานร่วมกันแบบ real-time เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของ Zed ด้วยระบบ Channels ที่ฝังอยู่ในตัว editor นักพัฒนาสามารถทำงานร่วมกันบนไฟล์เดียวกัน แชทกัน และแชร์หน้าจอได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือภายนอก[7] ทีมพัฒนามองว่านี่คือรูปแบบ "virtual office" สำหรับทีมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง ระบบ extension ของ Zed กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะยังไม่มากเท่า VS Code ที่มี extension มากกว่า 40,000 ตัว แต่ Zed รองรับการขยายความสามารถด้วยภาษาต่างๆ ผ่าน Tree-sitter grammar และ Language Server Protocol ได้อย่างครบถ้วน
เมื่อเดือนกันยายน 2025 Zed ได้ประกาศ Agent Client Protocol (ACP) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่เพื่อเชื่อมต่อ AI coding agents เข้ากับ code editor ต่างๆ[8] นี่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ต้องการสร้าง ecosystem สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มี AI เป็นส่วนสำคัญ แม้ว่า Zed จะยังเป็น editor ใหม่ที่ต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง VS Code แต่ด้วยประสิทธิภาพสูง การบูรณาการ AI อย่างลึกซึ้g และฟีเจอร์การทำงานร่วมกันที่ทันสมัย ทำให้ Zed กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาที่กำลังมองหาเครื่องมือรุ่นใหม่