ไมโครซอฟต์เริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้งานรอคอยมานานเกือบ 10 ปี ด้วยการปรับปรุงความสม่ำเสมอของโหมดมืด (Dark Mode) ใน File Explorer ของ Windows 11 อย่างเป็นทางการ หลังจากเริ่มทดสอบในเวอร์ชัน Preview Build ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตามรายงานจาก Windows Central และ Windows Latest การอัปเดตครั้งนี้จะแก้ไขปัญหากล่องโต้ตอบ (Dialog Box) ที่แสดงผลในโหมดสว่างแม้ผู้ใช้จะเปิดโหมดมืดไว้
ปัญหาที่ผู้ใช้ Windows 11 ประสบมาโดยตลอดคือเมื่อทำการคัดลอก ย้าย หรือลบไฟล์ในขณะที่เปิดใช้งานโหมดมืด กล่องโต้ตอบและหน้าต่างแสดงความคืบหน้าต่างๆ จะยังคงปรากฏในโหมดสว่าง ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกันและรบกวนสายตาผู้ใช้งาน แม้ว่าไมโครซอฟต์จะเปิดตัวฟีเจอร์โหมดมืดครั้งแรกใน Windows 10 เมื่อปี 2016 แล้วก็ตาม แต่หลายส่วนของระบบปฏิบัติการยังไม่ได้รับการปรับให้รองรับอย่างสมบูรณ์
การปรับปรุงในรอบนี้ครอบคลุมหลายส่วนสำคัญของ File Explorer โดยเฉพาะกล่องโต้ตอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ ได้แก่ หน้าต่างแสดงความคืบหน้าเมื่อคัดลอกไฟล์ขนาดใหญ่ กล่องยืนยันการลบไฟล์ กล่องโต้ตอบเมื่อเกิดข้อผิดพลาด และหน้าต่างแสดงสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ ตามข้อมูลที่ผู้ใช้ชื่อ Phantomofearth เปิดเผยบน X (Twitter) และได้รับการยืนยันจาก PCMag นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนสีของแถบความคืบหน้า (Progress Bar) จากสีเขียวที่ใช้มาตั้งแต่ยุค Windows 8 เป็นสีน้ำเงินที่เข้ากับธีมโทนสีของ Windows 11 มากกว่าเมื่ออยู่ในโหมดมืด
ไมโครซอฟต์ระบุว่ากำลังพัฒนาเพื่อสร้าง "ประสบการณ์โหมดมืดที่สอดคล้องกันมากขึ้น" ในส่วนต่างๆ รวมถึงแถบความคืบหน้า มุมมองแบบกราฟและแผนภูมิ กล่องโต้ตอบการยืนยัน การแจ้งข้อผิดพลาด และตัวเลือกต่างๆ เช่น การข้าม (Skip) การเขียนทับไฟล์ (Override) และการเลือกไฟล์ การปรับปรุงเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบใน Insider Preview Build เวอร์ชัน 26100.5061 โดยบางส่วนยังซ่อนอยู่และต้องเปิดใช้งานผ่านการตั้งค่าพิเศษ
อย่างไรก็ตาม การอัปเดตครั้งนี้ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาทั้งหมด ตามรายงานจาก Windows Central ยังมีหลายส่วนของระบบที่ยังไม่รองรับโหมดมืดอย่างสมบูรณ์ เช่น หน้าต่าง Run หน้าต่างคุณสมบัติของไฟล์ (File Properties) แผงควบคุม (Control Panel) และเมนู Folder Options ใน File Explorer นอกจากนี้ปุ่มบางปุ่มในกล่องโต้ตอบ เช่น ปุ่ม Continue และ Skip ยังคงแสดงผลในโทนสีสว่างอยู่ ซึ่งบ่งชี้ว่าการพัฒนายังไม่เสร็จสมบูรณ์
คาดว่าการปรับปรุงเหล่านี้จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ใช้งานในอัปเดต Windows 11 25H2 ในปลายปีนี้ การแก้ไขปัญหาโหมดมืดครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟต์ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและประสบการณ์ผู้ใช้งาน แม้จะใช้เวลานานกว่าที่ผู้ใช้หลายคนคาดหวังก็ตาม
