Qualcomm Technologies ประกาศเข้าซื้อกิจการ Arduino บริษัทผู้ผลิตบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์แบบโอเพนซอร์สชื่อดังจากอิตาลี[1] โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าถึงกลุ่มนักพัฒนา นักประดิษฐ์ และบริษัทสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และ IoT มากขึ้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ Qualcomm ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าดีล แต่ระบุว่า Arduino จะกลายเป็นบริษัทย่อยที่มีความเป็นอิสระในการบริหารงาน[2]
Arduino ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมในวงการอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสาย Maker มากว่าทศวรรษ บอร์ด Arduino Uno R3 เคยเป็นประตูแรกที่พานักพัฒนาจำนวนมากเข้าสู่โลกของไมโครคอนโทรลเลอร์และระบบฝังตัว[3] ผลิตภัณฑ์ของ Arduino ถูกใช้แพร่หลายในห้องแล็บหุ่นยนต์และบริษัทสตาร์ทอัพด้านฮาร์ดแวร์สำหรับการทำ prototype และพิสูจน์แนวคิดก่อนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์
ภายใต้ข้อตกลงนี้ Qualcomm ได้เปิดตัว Arduino UNO Q บอร์ดรุ่นใหม่ที่ราคา 45 ดอลลาร์สหรัฐ[4] ซึ่งเป็นการอัปเกรดจาก UNO R4 WiFi ที่ขายในราคา 27 ดอลลาร์ สิ่งที่น่าสนใจคือ UNO Q เป็นบอร์ดแบบไฮบริดที่รวมเทคโนโลยีสองระดับเข้าด้วยกัน ได้แก่ ไมโครโปรเซสเซอร์ Qualcomm Dragonwing QRB2210 ที่สามารถรันระบบปฏิบัติการ Linux Debian ได้เต็มรูปแบบ และไมโครคอนโทรลเลอร์ STM32U585 สำหรับการควบคุมแบบเรียลไทม์[5]
ความสามารถเด่นของ UNO Q อยู่ที่การเป็น "dual-brain platform" ที่ผสมผสานพลังการประมวลผลขั้นสูงกับการควบคุมแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการ AI ในระดับ edge computing เช่น:
- การรู้จำวัตถุด้วยคอมพิวเตอร์วิทัศน์
- การสั่งงานด้วยเสียง
- การตรวจจับการเคลื่อนไหว
- โครงการหุ่นยนต์และ IoT ที่ซับซ้อน
การเข้าซื้อ Arduino เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ใหญ่ขึ้นของ Qualcomm ภายใต้แบรนด์ Dragonwing ซึ่งเปิดตัวในต้นปี 2025[6] โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด industrial และ embedded IoT ก่อนหน้านี้ Qualcomm ยังเข้าซื้อกิจการ Edge Impulse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI สำหรับนักพัฒนา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านซอฟต์แวร์ machine learning[7] การรวมตัวกับ Arduino จึงเป็นการครบวงจรตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงชุมชนนักพัฒนาที่กว้างขวาง
Qualcomm คาดหวังว่าการเข้าถึงฐานผู้ใช้และชุมชน open-source ของ Arduino จะช่วยสร้างความภักดีและความน่าเชื่อถือในหมู่สตาร์ทอัพและนักสร้างสรรค์[8] โดยเฉพาะในยุคที่อุปกรณ์หุ่นยนต์และอุปกรณ์ IoT ต้องการชิปที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ทั้งนี้ Arduino จะคงแบรนด์และปรัชญา open-source เดิมไว้ พร้อมสนับสนุนชิปจากผู้ผลิตหลายรายต่อไป ขณะนี้การปิดดีลยังรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลตามขั้นตอน