OpenAI เปิดตัว Codex ใหม่ เชื่อมต่อ Slack และฟีเจอร์ใหม่สำหรับการเขียนโค้ด

2855b3fb-6827-810b-a269-c00da45b0b77.png

OpenAI ประกาศอัปเกรดเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะ Codex สู่เวอร์ชันใหม่ล่าสุด พร้อมเปิดให้บริการทั่วไป (Generally Available) อย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนกันยายน 2025 โดยมาพร้อมกับความสามารถใหม่ที่น่าสนใจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับ Slack, Codex SDK สำหรับ TypeScript และฟีเจอร์สำหรับผู้ดูแลระบบที่ครบครันยิ่งขึ้น

หัวใจสำคัญของการอัปเกรดครั้งนี้คือ GPT-5-Codex โมเดลใหม่ที่ออกแบบมาเฉพาะทางด้าน "agentic coding" ซึ่งสามารถปรับเวลาในการประมวลผลแบบยืดหยุ่นตามความซับซ้อนของงาน โดยอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีสำหรับงานเล็กน้อย หรือทำงานต่อเนื่องนานถึง 7 ชั่วโมงสำหรับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ เช่น การ refactor โค้ดหรือการดีบั๊กที่ซับซ้อน ด้วยระบบที่ฉลาดขึ้น Codex สามารถทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น ตั้งแต่อ่านและเขียนโค้ด รันเทส รีวิวโค้ด ไปจนถึงค้นหาจุดบกพร่องก่อนส่งมอบงาน

ฟีเจอร์เด่นที่น่าจับตามองคือการเชื่อมต่อกับ Slack ที่ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถเรียกใช้ Codex ได้ทันทีผ่านการแท็ก @Codex ในแชนแนล นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดตัว Codex SDK สำหรับ TypeScript ซึ่งนักพัฒนาสามารถนำ Agent ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Codex CLI ไปปรับใช้ในเวิร์กโฟลว์ของตัวเองได้โดยตรง ทำให้การผสานรวม AI เข้ากับระบบงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ส่วนฟีเจอร์สำหรับผู้ดูแลระบบก็ได้รับการพัฒนาเช่นกัน รองรับการจัดการ environment, กำหนดค่าเริ่มต้นสำหรับ CLI และ IDE พร้อมด้วยแดชบอร์ดวิเคราะห์การใช้งานที่ช่วยให้องค์กรติดตามและควบคุมการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านประสิทธิภาพ รายงานจาก OpenAI ระบุว่า GPT-5-Codex ทำคะแนนได้ 74.5% บน SWE-bench Verified ซึ่งเป็นเบนช์มาร์กที่วัดความสามารถ agentic coding และ 51.3% บนงาน refactoring ซึ่งสูงกว่า GPT-5 รุ่นมาตรฐาน นอกจากนี้ OpenAI ยังเผยว่าการใช้งาน Codex เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าภายในหนึ่งเดือนหลังการเปิดตัว แสดงให้เห็นถึงความต้องการของนักพัฒนาที่มีต่อเครื่องมือ AI coding ที่ทรงพลังและใช้งานง่าย

Codex พร้อม Slack และ SDK เปิดให้ใช้งานแล้วตั้งแต่วันนี้สำหรับลูกค้า ChatGPT Plus, Pro, Business, Edu และ Enterprise ทุกแพลน โดยฟีเจอร์ผู้ดูแลระบบจะเริ่มให้บริการสำหรับ Business, Edu และ Enterprise ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป ในขณะที่ OpenAI วางแผนจะเปิดให้บริการผ่าน API สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างโซลูชันของตัวเองในอนาคตอันใกล้

ที่มา: TechCrunch, OpenAI Blog, Medium