Microsoft เปิดตัว Magentic-One ระบบ AI ที่ให้มนุษย์ทำหน้าที่เป็น “Agent Boss” ควบคุมทีม AI ในการจัดการงานต่างๆ

2885b3fb-6827-81d6-a020-f22e12499d42.png

Microsoft Research เปิดตัวระบบปัญญาประดิษฐ์แบบใหม่ชื่อ Magentic-One ที่กลับหัวกลับหางแนวคิดเดิมของ AI ที่เราคุ้นเคย แทนที่จะเป็น AI ที่คอยรับคำสั่งจากมนุษย์ ระบบนี้กลับมี AI ตัวหนึ่งทำหน้าที่เป็น "หัวหน้า" ที่คอยสั่งการและประสานงาน AI ตัวอื่นๆ ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับเสนอวิสัยทัศน์ให้มนุษย์กลายเป็น "Agent Boss" ที่บริหารจัดการทีม AI แทนที่จะทำงานด้วยตัวเอง

Magentic-One เป็นระบบ multi-agent แบบ open-source ที่สร้างบนเฟรมเวิร์ก AutoGen หัวใจสำคัญของระบบคือ Orchestrator Agent ซึ่งทำหน้าที่เหมือนผู้จัดการโครงการที่คอยวางแผน มอบหมายงาน และประสานการทำงานของ AI agents อีก 4 ตัวที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ได้แก่ WebSurfer (ท่องเว็บและค้นหาข้อมูล), FileSurfer (จัดการไฟล์), Coder (เขียนโค้ด Python), และ ComputerTerminal (รันคำสั่งและโปรแกรม) ระบบนี้สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนได้ เช่น การจองตั๋ว การซื้อสินค้าออนไลน์ หรือการวิเคราะห์ข้อมูล โดยไม่ต้องให้มนุษย์คอยสั่งในแต่ละขั้นตอน

ความสามารถเด่นของ Magentic-One อยู่ที่การทำงานแบบอัตโนมัติแบบ end-to-end โดย Orchestrator จะแปลงคำสั่งภาษาธรรมชาติของมนุษย์เป็นแผนการทำงานที่ชัดเจน แจกจ่ายงานให้ agents ที่เหมาะสม และคอยติดตามความคืบหน้า หาก agent ตัวใดทำงานไม่สำเร็จ orchestrator จะปรับแผนและลองวิธีใหม่ ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและแก้ปัญหาได้เอง นอกจากนี้ Microsoft ยังเปิดให้นักวิจัยและนักพัฒนาใช้งานได้ฟรี พร้อมเครื่องมือประเมินประสิทธิภาพชื่อ AutoGenBench

แนวคิด Agent Boss ที่ Microsoft เสนอนั้นสะท้อนให้เห็นในรายงาน Work Trend Index ที่สำรวจพนักงาน 31,000 คนจาก 31 ประเทศ[1] รายงานระบุว่าในอนาคตพนักงานจะไม่ใช่ "ผู้ใช้" AI อีกต่อไป แต่จะกลายเป็น "ผู้บริหาร" ที่คอยสั่งการทีม AI เหมือนการบริหารพนักงานมนุษย์ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft เปรียบเทียบว่า AI agents จะทำหน้าที่เหมือน "Chief of Staff" ที่คอยจัดการงานน่าเบื่อและซ้ำซากแทนมนุษย์[2] ทำให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจระดับสูงมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม AI จากการที่ AI ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรับคำสั่ง กลายเป็นระบบที่สามารถคิด วางแผน และบริหารจัดการงานได้เอง ในขณะที่มนุษย์ยกระดับไปเป็นผู้วางทิศทางและตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ Microsoft เชื่อว่าทักษะการสร้างและบริหาร AI agents จะกลายเป็นคุณสมบัติสำคัญในประวัติการทำงานของพนักงานในอนาคต และผลักดันให้องค์กรต่างๆ เตรียมพร้อมสู่การเป็น "Frontier Firm" ที่มีโครงสร้างการทำงานแบบผสมผสานระหว่างมนุษย์กับ AI agents[3]