Amazon Web Services (AWS) ประกาศเปิดตัว Amazon Quick Suite แพลตฟอร์ม Agentic AI สำหรับองค์กร ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พนักงานในองค์กรสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นและดำเนินการได้ทันที โดยรวมเอเย่นต์ AI สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล การค้นคว้าเชิงลึก และระบบอัตโนมัติไว้ในแพลตฟอร์มเดียว รายงานจาก GeekWire และ Business Insider ระบุว่า Quick Suite ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแข่งขันโดยตรงกับ Microsoft Copilot และ Google Gemini ในตลาด AI สำหรับองค์กร
Quick Suite เป็นแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ Agentic AI ซึ่งไม่ได้เพียงแค่สร้างคำตอบ แต่สามารถดำเนินการและใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายในองค์กรได้หลากหลาย ตั้งแต่เอกสารภายใน Wiki และ Intranet ไปจนถึงฐานข้อมูลและแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม เช่น Salesforce สำหรับข้อมูลลูกค้า Zendesk สำหรับตั๋วบริการลูกค้า และ Slack สำหรับการทำงานร่วมกันของทีม นอกจากนี้ยังรองรับบริการ AWS อย่าง S3 และ Redshift รวมถึงการเชื่อมต่อผ่าน Model Context Protocol (MCP) ที่ให้เข้าถึงแอปพลิเคชันได้มากกว่า 1,000 แอปพลิเคชัน
ความสามารถเด่นของ Quick Suite ประกอบด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยทำงานประจำวันได้หลากหลาย เช่น การสรุปอีเมล การส่งข้อความ การอัพเดตตั๋วโครงการ การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ และการวางกลยุทธ์ลูกค้า โดยใช้ข้อมูลของบริษัทอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับ Quick ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน และ Browser Extension สำหรับ Chrome และ Firefox ทำให้สามารถเข้าถึงความสามารถของ AI ได้จากทุกที่ทำงาน
Amazon มีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือความสามารถในการทดสอบเครื่องมือสำหรับองค์กรกับพนักงานจำนวนมหาศาลของตัวเองก่อนเปิดตัวสู่สาธารณะ รายงานระบุว่า Quick Suite ได้รับการทดสอบกับกลุ่มบริษัทนำร่องและได้เปิด Private Preview ให้กับบริษัทมากกว่า 50 แห่ง รวมถึงบริษัทชั้นนำอย่าง BMW, Koch Industries และ Intuit Amazon ยังได้เชิญพนักงานภายในเข้าร่วมทดสอบเบต้าเพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
การเปิดตัว Quick Suite นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ AWS ที่จะขยายธุรกิจจาก Cloud Infrastructure ไปสู่เครื่องมือผลิตภาพสำหรับผู้ใช้ธุรกิจทั่วไป ซึ่งถือเป็นการแข่งขันในตลาด Agentic AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เล่นหลักอย่าง Google, Microsoft, OpenAI, Salesforce และสตาร์ทอัพด้าน AI หลายแห่งกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มในแนวทางเดียวกัน คาดว่า Agentic AI จะกลายเป็นส่วนสำคัญของที่ทำงานในอนาคต เช่นเดียวกับ Cloud Computing และแอปพลิเคชันบนมือถือในปัจจุบัน
